วัดศิมาลัยทรงธรรม http://watsimalai.siam2web.com/

เสียง(ทิพย์กระซิบ)จาก...สวนทิพย์

ที่มาของเสียง
          ในโอกาสงานมหาบุญบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ฉลองศาลาปฏิบัติธรรมแปดเหลี่ยม ทอดผ้าป่าสามัคคี ปฏิบัติธรรมจิตภาวนา และงานบุญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดพระอธิการฉัตรชัย อนาลโย (หลวงปู่ครูบาโต) ระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2552 นี้ ผู้จัดงานฯ ได้กราบเรียนนิมนต์พระสุปกิบันโนหลายรูป อาทิ หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิตโต จันทรสมบูรณ์ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโท เพื่อมาร่วมงานในวันที่ 7 พฤษภาคม สมเด็จพระมหารัชมังคลจารย์ กรรมการเถระสมาคม เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ท่านเจ้าคุณพระเทพวราลังการ รองเจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน พระอาจารย์สามารถ วัดสังฆทาน นนทบุรี พระภิกษุ สงฆ์ สมณชีพราหมณ์ ตลอดจนฤาษีหลายต่อหลายรูป มาร่วมงานรับถวายภัตตาหารเช้า และเพลรวม 3 วัน มากมายประมาณกว่า 500 รูปนั้น ผู้เขียนได้รับมอบหมายงานเมื่อวันที่ 29 เมษายน ศกนี้ จากท่านพระอธิการฉัตรชัย อนาลโย (หรือหลวงปู่ครูบาโต) ว่าทางวัดฯ น่าจะมีการจัดพิมพ์บันทึกเล่มน้อยที่อยู่ในมือท่านขณะนี้ เพื่อแจกเป็นธรรมทาน โดยท่านได้เมตตาตั้งชื่อให้ และหลวงปู่บุญญฤทธิ์ได้เมตตาอนุญาตให้จัดพิมพ์ได้ ดังที่ผู้อ่านกำลังเห็นอยู่ขณะนี้ว่า "เสียง (ทิพย์...กระซิบ) จากสวนทิพย์" เสียงทิพย์ คือ เสียงที่สมกับที่เราเรียกชื่อ ซึ่งมีความหมายเป็นไปได้ทั้งเสียงที่ดี และงามเลิศ หรือเสียงที่เราท่านอาจจะไม่ได้ยินบ่อยนัก หรือน้อยคนที่สามารถได้ยิน และสวนทิพย์ คือ สำนักสงฆ์ที่จังหวัดนนทบุรี ที่หลวงปู่เมตตาพำนักอยู่ในปัจจุบัน ดังท่านจะได้รับทราบจากเสียงทิพย์ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้
 
ลักษณะการถ่ายทอด
          ผู้เขียนจะขอใช้วิธีการประหนึ่งเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ฟัง ส่วนคำพูดที่หลวงปู่เมตตาจะทำเป็นตัวใหญ่ให้เห็นชัดเจนต่างออกไป เพื่อแสดงความเคารพสักการะต่อองค์หลวงปู่บุญฤทธิ์ฯ ที่ท่านได้เมตตาแสดงมุทิตาจิต เพื่อเป็นสิริมงคลในโอกาสมหามงคลนี้ด้วย
ภาคหนึ่ง (สัญญาจากอดีต)

ไม่เคยตอบจดหมายใครยาวและมากมายขนาดนี้เลย ตั้งยี่สิบหน้า

          หลังจากวันที่ 2 สิงหาคม ปี 2535 เมื่อผู้ขียนกลับจากพม่า ได้พบกับสหายธรรมซึ่งได้ถามผู้เขียนว่า พม่าเป็นอย่างไรบ้าง? ผู้เขียนได้ตอบว่า ก็ดีมีธรรมะ-ชาติ ดี สหายธรรมตอบว่า สู้ที่ออสเตรเลียไม่ได้ เขามีโอกาสพบหลวงปู่องค์หนึ่งโดยบังเอิญ ท่านสามารถพูดภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้ด้วย และเขาได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมกับท่านที่บ้านศิษย์ต่างชาติชาวออสเตรเลียด้วย เขาเรียกชื่อท่านว่าหลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิตโต จันทรสมบูรณ์ ซึ่งผู้เขียนเกิดความสนใจท่านมาก แต่ก็มิได้กล่าวอะไรในขณะนั้น ต่อมาก็พบสหายธรรมผู้นี้อีก เขาก็บอกว่า วันนี้ตัวเขาได้รับจดหมายจากหลวงปู่บุญฤทธิ์ฯ ด้วยนะ อยากอ่านไหม? ด้วยความดีใจบอกกว่า อยากอ่านซิ และหลังจากที่ได้อ่านจึงเกิดความคิดว่า เอ น่าจะให้ผู้อื่นได้มีโอกาสอ่านธรรมอันลึกซึ้งนี้ด้วย ผู้เขียนจึงได้ถามสหายธรรมผู้นั้นว่า เราจะขอพิมพ์จดหมายธรรมฉบับนี้เพื่อเผยแพร่ได้ไหม? เขาบอกผู้เขียนว่าให้เขียนขออนุญาตหลวงปู่บุญฤทธิ์ฯ เอง ผู้เขียนด้วยความดีใจ จึงเขียนกราบเรียนขออนุญาตท่าน พร้อมคำถามข้อธรรมะแนบไปด้วย ไม่นาน ท่านหลวงปู่บุญฤทธิ์ฯ ท่านเมตตามากเขียนตอบมา 20 หน้า ดังปรากฏในหนังสือ Buddhist Sound from Australia ผู้เขียนคิดว่า คงเป็นเพราะเมตตาที่เปี่ยมล้นของท่านที่มีต่อผู้เขียน ซึ่งเป็นคนโง่ และรู้น้อยในธรรมเป็นอย่างยิ่ง จึงขอกราบแทบเท้า กราบขอบพระคุณหลวงปู่บุญฤทธิ์ฯไว้ ณ ที่นี้ (ต่อมาเมื่อได้พบหลวงปู่อีกครั้งที่สวิตเซอร์แลนด์ ท่านเมตตาบอกต่อหน้าศิษย์ว่า ไม่เคยตอบจดหมายใครยาว และมากมายขนาดนี้เลย ตั้งยี่สิบหน้า) และอนุญาตให้จัดพิมพ์ได้ โดยให้ช่วยกันระหว่างสหายธรรมผู้นั้นกับผู้เขียน รวบรวมจดหมายของศิษย์หลายคนที่หลวงปู่บุญฤทธิ์ฯ ได้เมตตาตอบมา โดยหลวงปู่ได้เมตตาตั้งชื่อให้ว่า "Buddhist sound from Australia" หรือ "เสียงธรรมจากออสเตรเลีย" เล่มแรกเกิดขึ้นโดยหน้าปกเป็นภาพวาดของคุณผลบุญ เมื่อประมาณปลายปี 2535 หนังสือมีความหนา 65 หน้า

ถูกแล้ว ใช่อาตมา

          จากวันนั้นไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร คาดว่าอีกประมาณหนึ่งถึงสองเดือน คุณแม่นิด (อรอนงค์ อรรถไกลวัลวที) ซึ่งท่านเมตตาให้ผู้เขียนเรียกท่านว่าคุณแม่ ได้ชวนผู้เขียนขึ้นไปร่วมบุญที่จังหวัดเชียงใหม่ประมาณต้นปี 2535 ผู้เขียนก็ได้บอกสหายธรรมคนเดิมว่า จะพักร้อนขึ้นไปเชียงใหม่ เขาถามว่าไปเมื่อไร - ก็ได้บอกวันที่เขา เขาพูดว่าผู้เขียนอาจได้พบหลวงปู่บุญฤทธิ์ฯ ที่นั่น ผู้เขียนเองเกิดปิติ ทั้งที่ในใจก็คิดว่าเราจะไปยังที่ใดบ้างก็ไม่ทราบ จะไปพบได้อย่างไรก็ไม่ทราบอีก เมื่อถึงเชียงใหม่ พักหนึ่งคืน ก็ได้เดินทางจากเชียงใหม่ไปลำพูน วันนั้นจำได้ว่าคณะหญิง 5 คน เหมือนกับนัดกันแต่งกายสีขาวตรงกันทุกคน (แต่ไม่ใช่ชุดแม่ชี) เพื่อเดินทางไปร่วมงานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อครูบาศรีวิชัยฯ ที่จังหวัดลำพูน ซึ่งวันนี้ทางคณะเจ้าภาพ คือ ท่านหลวงพ่ออนันต์ฯ ท่านได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นประธาน และหลวงปู่ครูบาวงศ์ หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิตโต และพระสุปฏิปันโนอีกหลายรูป ซึ่งผู้เขียนเองก็ไม่รู้จักพระแต่ละรูปมากนัก เนื่องจากทักจะได้เห็นจากรุปถ่าย ที่แต่ละท่านมาร่วมงานด้วยมากมาย ทราบต่อมาว่า จากนั้นหลวงปู่ได้ขึ้นไปกราบ และสนทนากับหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ที่ภูจอกอ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2535 ซึ่งลูกศิษย์ได้อัดเทปไว้แจกเป็นธรรมทาน และมีการถ่ายทอดในหนังสือเสียงจากสุทธิสาร ตีพิมพ์ปี 2543

          ภาพที่ไต้ศาลาก่อนสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ เสด็จ ชายนุ่งขาวใส่เสื้อยืดขาว โกนศีรษะ (คุณเม้ง) เข็นรถหลวงปู่รูปหนึ่ง ผู้เขียนจำภาพท่านหลวงปู่บุญฤทธิ์ (ซึ่งต่อไปนี้ผู้เขียนขออนุญาตเรียกท่านว่า "หลวงปู่") ได้เมื่อครั้งที่ท่านเมตตาส่งรูปมาให้พิมพ์หนังสือ Buddhist sound from Australia อารามดีใจชวนคณะทั้ง 5 คน เข้าไปกราบลงกับพื้น และถามท่านว่า ท่านคือหลวงปู่บุญฤทธิ์ฯ ใช่ไหม และผู้เข็นก็คือ คุณเม้งใช่ไหม ท่านยิ้มด้วยเมตตาอย่างสดใสในแววตาที่เปี่ยมล้นด้วยเมตตา คุณเม้งฯ เอง ก็คงจะงงแต่ก็ยิ้มๆ อย่างใจดี หลวงปู่เมตตาตอบว่า ถูกแล้ว ใช่อาตมา ลูกขอกราบหลวงปู่อีกครั้งเจ้าค่ะ

          หลวงปู่บุญฤทธิ์ ท่านเมตตายิ้ม และพูดต่ออีกว่า แต่เอ เราจะเป็นลูกศิษย์กันหรือนี่ ยังไม่ได้ทำสมาธิกันเลย ผู้เขียนตอบหลวงปู่ว่า เราทำสมาธิกันมาทุกคน เพียงแต่ยังไม่ได้พบหลวงปู่ จึงขอความเมตตารับคณะทั้ง 5 คนเป็นศิษย์ด้วย จากนั้นผู้เขียนก็มิได้มีโอกาสมากราบหลวงปู่อีก เนื่องจากต้องไปรับราชการยังต่างประเทศ ในเดือนมกราคมปีต่อมา

บางทีหลวงปู่อาจมาเยี่ยม

          เมื่อผู้เขียนมาถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ส่งเช็คเงินสวิตฟรังค์ ไปถวายหลวงปู่ที่ออสเตรเลีย หลวงปู่เมตตาตอบจดหมายว่าได้รับเช็คแล้ว และมาทราบวันหนึ่งในเดือนมกราคม 2536 สหายธรรมได้เขียนจดหมายถึงผู้เขียนว่า หลวงปู่บุญฤทธิ์ฯ เดินทางกลับมาประเทศไทย และเขาผู้เป็นสหายธรรมนี้ ได้ไปรับที่สนามบิน หลวงปู่เมตตาบอกเขาว่า บางทีหลวงปู่อาจมาเยี่ยม ผู้เขียนขนลุกด้วยความปิติยินดีิ่ง รีบตอบจดหมายไปว่า หากหลวงปู่บุญฤทธิ์ เมตตาไปเยี่ยม ผู้เขียนจะขอออกค่าเครื่องบินให้หลวงปู่ และเขาก็ได้ไปกราบเรียนให้หลวงปู่ทราบ ท่านเมตตาตอบว่า หากหาที่พักได้ จะไปเข้าพรรษาที่นี่นเลย แต่ต้องถูกลักษณะที่พักที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ ซึ่งผู้เขียนพยายามหา แม้จะต้องเช่าบ้านเคลื่อนที่ก็ตาม ต้องเตรียมเครื่องทำความอุ่นในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งมีอากาศเย็น แต่ติดขัดเรื่องที่ตั้ง เพราะต้องขออนุญาตทางการ สุดท้ายการติดต่อผ่านไปจนล่วงวันเข้าพรรษา การติดต่อซึ่งยังมลงตัว ผู้เขียนกระวนกระวาย ในสุดท้ายทำให้หลวงปู่เมตตาตอบว่า หลวงปู่อธิษฐานเข้าพรรษาหลังได้ในเดือนสิงหาคมเท่านั้น ผู้เขียนมีกำลังใจขึ้น พยายามติดต่อคนไทยว่ามีบ้านพัก หรือใครจะสามารถให้บ้านเป็นที่พักเข้าพรรษาได้บ้าง บางคนให้บ้านที่ชายแดนสวิตฯติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสงบเย็น แต่ติดที่ว่าต้องเดินทางผ่านข้ามด่านชายแดน ซึ่งสำหรับหลวงปู่ขณะนั้นยังถือหนังสือเดินทางธรรมดา ต่อมาคุณหย่วน (ขออภัย ผู้เขียนจำนามสกุลไม่ได้) เป็นเจ้าของร้านสุโขทัยที่เมืองบาเซิล สวิตเซอร์แลนด์ ได้ทราบก็รีบให้บ้านที่ตนซื้อไว้นานแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าอยู่ เป็นที่พักเข้าพรรษานั้นกับหลวงปู่บุญฤทธิ์ ที่เมืองนั้นเอง แต่ผู้เขียนประสงค์จะให้หลวงปู่เลือกที่เข้าจำพรรษาด้วยตนเองอีกครั้ง และแล้วประมาณวันที่ 21 สิงหาคม 2536 หลวงปู่ก็เดินทางโดยสายการบินไทยถึงนครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งผู้เขียนไปรับที่สนามบิน โดยหลวงปู่นั่งรถเข็นออกมาเป็นองค์แรก ในขณะนั้นยังไม่มีผู้โดยสารใดตามออกมา นอกจากเจ้าหน้าที่สายการบิน ผู้เขียนพร้อมบุตรได้ก้มกราบหลวงปู่ที่พื้นสนามบิน ท่านเมตตายิ้มให้ แล้วถามว่าโยมชื่ออะไรล่ะ เมื่อผู้เขียนตอบว่า อื้อ หลวงปู่จำหน้าไม่ได้ เนื่องจากผู้เขียนได้พบผู้เขียนเพียงครั้งเดียว และนานไม่ถึงห้านาที จากนั้นหลวงปู่ท่านเมตตาเล่าต่อว่า เมื่อเดินทางออกจากกรุงเทพฯ นั้น ก็ยังนึกไม่ออกว่าที่พักจะจำพรรษาจะเป็นที่บ้านใครและอย่างไร มันเหมือนกับรู้สึกแต่ว่า อะไรอะไร ก็แล้วแต่หลวงพ่อว่า ที่แท้เป็นบ้านร้าง ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าในวันที่เดินทางมาถึง (แต่พอออกพรรษาแล้ว บ้านคุณหย่วนฯ กลับสว่างไสวเหมือนจิตใจหลังการปกิบัติธรรม) ฉะนั้น เราจึงต้องอาศัยเทียนจุดเพื่อเพิ่มความสว่างกันในช่วงต้นของกากรมาถึง เนื่องจากได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์ และเจ้าของก็ไม่ทราบ (คิดว่าคนเฝ้าบ้านคงจะปิดสวิชไฟใหญ่)

อำนาจของพระพุทธชินราช อะไร อะไร ก็แล้วแต่หลวงพ่อว่า

          ประโยคข้างต้นนี้ ...

โปรดติดตามอ่านต่อไปเร็วๆนี้...

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 52,519 Today: 5 PageView/Month: 9

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...